รองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศพบหารืออัครราชทูตที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย

รองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศพบหารืออัครราชทูตที่ปรึกษาสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย

วันที่นำเข้าข้อมูล 4 พ.ย. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 4 พ.ย. 2567

| 169 view

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 นางอรุณี ไฮม์ม รองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ให้การต้อนรับ  Ms. Angela Anggraeni Soewono อัครราชทูตที่ปรึกษา สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของไทยกับอินโดนีเซีย โดยมี นางสาวชิดชนก มาลยะวงศ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ และเจ้าหน้าที่กลุ่มงานวางแผนความร่วมมือและประเมินผลความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ เข้าร่วมประชุมด้วย ณ ห้องรับรอง 6 กระทรวงการต่างประเทศ

ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนข้อมูลความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างกัน ซึ่งไทยได้ให้ความร่วมมือทางวิชาการแก่อินโดนีเซียมาตั้งแต่ปี 2504 ในลักษณะเท่าเทียมกัน ผ่านความร่วมมือแบบทวิภาคี ไตรภาคี และทุนศึกษาและทุนฝึกอบรมนานาชาติประจำปี รวมทั้งความร่วมมือในกรอบอนุภูมิภาคภายใต้แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle: IMT-GT) ก่อตั้งเมื่อปี 2536 ครอบคลุมพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ 11 รัฐภาคเหนือและตะวันตกของมาเลเซีย และ 10 จังหวัดในเกาะ   สุมาตราของอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ได้หารือการจัดประชุมความร่วมมือทางวิชาการไทย-อินโดนีเซีย ครั้งที่ 4,ซึ่งกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ จะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ณ กรุงเทพมหานคร ต่อจากการประชุม UN ESCAP Asia-Pacific Director-General (APDG) Forum for South-South and Trianggular Cooperation (SSTC) ครั้งที่ 6 ซึ่งกรมความร่วมมือระหว่างประเทศจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับ UN ESCAP จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 – 28 พฤศจิกายน 2567 โดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศรับที่จะเป็นประธานร่วม (Co-chair) กับอินโดนีเซียในการประชุมระดมสมองระหว่าง Emerging Development Partners (EDP) ที่อินโดนีเซีย และ UN ESCAP จะจัดขึ้นในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ด้วย

อัครราชทูตที่ปรึกษาฯ แจ้งว่า ปี 2568 จะเป็นปีเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยและอินโดนีเซีย จึงเห็นว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะมีการจัดประชุมความร่วมมือทางวิชาการฯ ระหว่างกัน และมีผลสรุปที่เป็นรูปธรรม สามารถดำเนินกิจกรรมได้ภายในปีหน้านี้ด้วย   

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ