อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศหารือกับผู้บริหาร International Organization for Migration (IOM)

อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศหารือกับผู้บริหาร International Organization for Migration (IOM)

วันที่นำเข้าข้อมูล 16 มิ.ย. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 16 มิ.ย. 2566

| 475 view

เมื่อวันที่ ๑๒ มิ.ย. ๒๕๖๖ นางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้หารือร่วมกับMs. Géraldine Ansart หัวหน้าสำนักงาน (Chief of Mission) องค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (International Organization for Migration – IOM) ประจำประเทศไทย และ Mr. Fabio Jimenez, Head of the Labour Mobility and Market Unit, IOM สำนักงานใหญ่ โดยมี นางอรุณี ไฮม์ม รองอธิบดี นางสาวชิดชนก มาลยะวงศ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย ณ ห้องประชุม ๒ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ

ผู้แทน IOM ได้ใช้โอกาสนี้แนะนำตัว และแจ้งบทบาทของหน่วยงานในการสนับสนุนรัฐสมาชิกองค์การสหประชาชาติด้านการโยกย้ายถิ่นฐานของประชากร และแรงงานข้ามชาติในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมีสำนักงานประจำ จ. เชียงใหม่ จ. เชียงราย และ จ. แม่ฮ่องสอน และดำเนินงานตาม ๓ เสาหลักที่ให้ความสำคัญกับการเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศ และเศรษฐกิจสีเขียว (Climate Change & Green Economy) การพัฒนาทุนมนุษย์ (Human Capital) และการไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง (Leave No One Behind) ภายใต้กรอบความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาที่ยั่งยืนระหว่างไทยกับสหประชาชาติ พ.ศ. ๒๕๖๕–๒๕๖๙ อาทิ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกับการเคลื่อนย้ายแรงงาน การเคลื่อนย้ายแรงงานข้ามพรมแดนกับปัญหาด้านสาธารณสุข การค้ามนุษย์ และธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของแรงงาน นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงโอกาสที่จะมีความร่วมมือกับไทย โดยกรมความร่วมมือฯและสวิตเซอร์แลนด์ ในการดำเนินโครงการลดความยากจนโดยการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างปลอดภัย การพัฒนาทักษะ และขยายการจ้างงานในประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศไทย (Poverty Reduction through Safe Migration, Skills Development and Enhanced Job Placement in Cambodia, Lao PDR, Myanmar and Thailand - PROMISE II) รวมถึงได้นำเสนอโครงการ Skilled Mobility Partnership ซึ่งมีแนวคิดในการพัฒนาทักษะฝีมือให้แก่แรงงานในประเทศเพื่อนบ้านตามมาตรฐานแรงงานไทย และความต้องการของภาคเอกชนไทยก่อนที่แรงงานจะย้ายถิ่นฐานเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยยกตัวอย่างที่ IOM ร่วมกับภาคเอกชนในอุตสาหกรรมพลาสติกฝึกแรงงานในประเทศตูนิเซียก่อนการโยกย้ายถิ่นฐานไปยังฝรั่งเศส และเชิญชวนให้กรมความร่วมมือฯ ร่วมสนับสนุนโครงการ โดยไทยจะเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ได้ดำเนินโครงการนี้ร่วมกับ IOM

อธิบดีกรมความร่วมมือฯ ได้แจ้งถึงความพร้อมที่จะร่วมมือกับ IOM และเสนอแนะแนวทางความร่วมมือ อาทิ ร่วมดำเนินโครงการทวิภาคีที่มีอยู่แล้วของไทย อาทิ โครงการด้านสาธารณสุข และด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานตามแนวชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โครงการจัดตั้งศูนย์แรกรับเหยื่อการค้ามนุษย์ เป็นต้น รวมทั้งดำเนินโครงการ Skilled Mobility Partnership กับ IOM ในลักษณะความร่วมมือไตรภาคี ทั้งนี้ สนใจที่จะไปเยี่ยมชมสำนักงาน IOM ประจำ จ. เชียงราย ในโอกาสที่จะไปติดตามโครงการด้านการป้องกันโรคมาลาเรียของกรมความร่วมมือฯ ในช่วงต้นเดือน ก.ค. ๒๕๖๖

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ