วันที่นำเข้าข้อมูล 16 เม.ย. 2563
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 21 พ.ย. 2565
ความร่วมมือไตรภาคี
ไทยและมองโกเลียได้ริเริ่มการดำเนินความร่วมมือไตรภาคีในปี ๒๕๕๗ โดยนาย Damba Gankhuyag รมช.กต.มองโกเลียได้พบหารือกับ น.ส.สุชาดา ไทยบรรเทา อธิบดีกรมความร่วมมือฯ (ในขณะนั้น) โดยฝ่ายมองโกเลียได้เสนอริเริ่มความร่วมมือทางวิชาการในระดับไตรภาคีกับไทยและเมียนมา เพื่อส่งเสริมการพัฒนาประชาธิปไตยให้แก่เมียนมา และต่อมาฝ่ายมองโกเลียได้เชิญมูลนิธิเอเชียเข้ามาเป็นคู่ร่วมความร่วมมือในฐานะ Facilitator ด้วย
นอกจากนี้ ไทยได้ร่วมกับ Perez-Guerrero Trust Fund for South-South Cooperation จัดหลักสูตรฝึกอบรมด้านสาธารณสุขให้แก่บุคลากรมองโกเลีย จีน กพช. อซ. ลาว เมียนมาและปากีสถาน หัวข้อ “International Training Course on Sustainable Community Health Development through Community Health Volunteers: Monitoring, Evaluation and Supervision” ระหว่างวันที่ ๓ – ๒๑ มิ.ย. ๒๕๖๒ โดยคณะพยาบาลศาสตร์ ม. เชียงใหม่ เป็นผู้ดำเนินการ
ไทย – เยอรมนี – มองโกเลีย ได้ดำเนินโครงการด้านการท่องเที่ยวภายใต้กรอบไตรภาคี ๑ โครงการ (ดำเนินการผ่าน GIZ) ได้แก่ “Sustainable Tourism and Sufficiency Economy in Mongolia” ระยะเวลาตั้งแต่ ม.ค. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๓ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่เป้าหมาย ๓ แห่งของมองโกเลีย ได้แก่ Bayankhongor, Selenge และ Uvs ซึ่งฝ่ายไทยสนับสนุนให้มองโกเลียพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโดยประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเและเพิ่มมูลค่าสินค้าในท้องถิ่น โดยกรมความร่วมมือฯ ร่วมกับองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) จัดการศึกษาดูงานแก่บุคลากรของมองโกเลียเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยว ได้แก่ (๑) หัวข้อ Tourism & Hospitality Management ที่จังหวัดเลย เมืองพัทยา และกรุงเทพมหานคร (๒) หัวข้อ Sustainable, Sufficiency Economy and Community-based Tourism in Thailand ที่กรุงเทพมหานคร และ จ.กระบี่ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมการสร้างเครือข่ายระหว่างเอกชนไทยและมองโกเลียด้านการท่องเที่ยว สถานะล่าสุด โครงการนี้จะสิ้นสุดในเดือน มิ.ย. ๒๕๖๓ โดยยังเหลืออีก ๑ กิจกรรมที่จะดำเนินการ คือ การจัดการศึกษาดูงานให้นักสื่อสารมวลชนและบริษัทท่องเที่ยวของมองโกเลียในด้านการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และการบริหารจัดการที่พักอาศัยทั้งในลักษณะ home-stay และแคมป์ท่องเที่ยว โดยทั้งสามฝ่ายอยู่ระหว่างการกำหนดช่วงเวลาที่เหมาะสมในการจัดการศึกษาดูงานภายในปี ๒๕๖๓