กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ร่วมกับมหาวิทยาลัยบูรพา สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ เข้าร่วมการประชุมสรุปผลการดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนต้นแบบอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่จังหวัดเบ๊นแจ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ร่วมกับมหาวิทยาลัยบูรพา สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ เข้าร่วมการประชุมสรุปผลการดำเนินโครงการพัฒนาชุมชนต้นแบบอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่จังหวัดเบ๊นแจ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

วันที่นำเข้าข้อมูล 4 พ.ย. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 4 พ.ย. 2567

| 73 view

เมื่อวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ นางพิมพ์วดี โสวรัตนพงศ์ รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ เป็นประธานฝ่ายไทยเข้าร่วมการประชุมสรุปผลการดำเนินงาน พร้อมปิดและส่งมอบโครงการพัฒนาชุมชนต้นแบบอย่างยั่งยืนบนพื้นฐานการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่จังหวัดเบ๊นแจ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ร่วมกับ (๑) Ms. Nguyễn thị ngọc dung, Deputy Director of Department of Sport, Culture and Tourism ประธานฝ่ายเวียดนาม (๒) Mr. Nguyễn Văn Lớn, Secretary of Binh Dai District Party Committee และ (๓) Mr. Võ Văn Quân, Vice Chairman of Binh Dai District People’s Committee โดยได้รายงานผลการดำเนินงานตลอด ๑ ปีที่ผ่านมา และมหาวิทยาบูรพารายงานผลการประเมินโครงการ

กรมความร่วมมือระหว่างประเทศดำเนินโครงการนี้ร่วมกับมหาวิทยาลัยบูรพา และสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากคณะกรรมการประชาชนจังหวัดเบ๊นแจ และอำเภอบิ่นห์ ด่าย สำนักงานวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูและพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของจังหวัดเบ๊นแจหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส (COVID-19) โดยคำนึงถึงความยั่งยืนและสอดคล้องกับนโยบายการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเบ๊นแจ ซึ่งชูอัตลักษณ์ “Green Zone Coconut Land - A safe, friendly, and quality destination”

โครงการนี้ได้เริ่มดำเนินการในปี ๒๕๖๖ มีแผนดำเนินงาน ๓ ระยะ ได้แก่ ระยะที่ ๑ คณะผู้เชี่ยวชาญลงสำรวจพื้นที่ ประเมินศักยภาพ และคัดเลือกผู้ประกอบการเป็นพื้นที่เป้าหมายโครงการ ระยะที่ ๒ ออกแบบกิจกรรมและหลักสูตรอบรมจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการในประเทศไทยให้แก่ผู้ประกอบการกลุ่มเป้าหมาย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และให้กลุ่มเป้าหมายนำความรู้จากการฝึกอบรมไปทดลองปฏิบัติในพื้นที่ของตนและระยะที่ ๓ คณะผู้เชี่ยวชาญเดินทางไปติดตามประเมินผล พร้อมจัดฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการเพิ่มเติม

บัดนี้ การดำเนินโครงการได้เสร็จสิ้นแล้ว และพบว่า หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนของฝ่ายเวียดนามต่างมีส่วนร่วมในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และส่งเสริมบทบาทของธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจของชุมชนซึ่งอยู่รอบ ๆ สถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในอนาคตอันใกล้อำเภอบิ่นห์ ด่าย อาจเป็นอำเภอต้นแบบให้กับอำเภออื่น ๆ ในเรื่องการรวมกลุ่มเพื่อทำการท่องเที่ยวโดยชุมชน โดยมีภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งผู้ประกอบการ และชาวบ้านในชุมชน ภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมกันขับเคลื่อนการท่องเที่ยวให้ประสบความสำเร็จและได้มาตรฐาน ทั้งนี้ ฝ่ายเวียดนามให้คำมั่นว่า จะติดตามการดำเนินงานของชุมชนอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างสมบูรณ์ต่อไป

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ