รองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐยูกันดาประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

รองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศให้การต้อนรับเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐยูกันดาประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์

วันที่นำเข้าข้อมูล 28 มี.ค. 2567

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 28 มี.ค. 2567

| 313 view

เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๗ เวลา ๙.๐๐ น. นางอรุณี ไฮม์ม รองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ให้การต้อนรับและหารือกับนางเบ็ตตี โอเยลลา บีกอมเบ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐยูกันดาประจำประเทศไทย ถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างไทย-ยูกันดา ณ ห้องรับรอง ๔ กระทรวงการต่างประเทศ โดยมี กงสุลกิตติมศักดิ์ ยูกันดา/ปทท. และเจ้าหน้าที่จากกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา และกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ เข้าร่วมด้วย ออท. ยูกันดา/ปทท. กล่าวถึงประเด็นที่ตนได้หารือกับ นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศเรื่องการยกระดับความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ยูกันดา และส่งเสริมการค้า การลงทุน ระหว่างทั้ง ๒ ประเทศ เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๗ และขอบคุณ รอธ. กรมความร่วมมือฯ ที่ให้โอกาสมาหารือเรื่องความร่วมมือทางวิขาการในเชิงลึก ต่อเนื่องจากที่ได้แจ้งความประสงค์กับ ผู้ช่วย รมต. ไว้

รอธ. กรมความร่วมมือฯ ได้แจ้งถึงการดำเนินความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ผ่านแผนงาน Annual International Training Courses (AITC) และ Thailand International Post-graduate Programme (TIPP) ที่มีการแจ้งเวียนทุนให้แก่รัฐบาลยูกันดาผ่าน สอท. ณ กรุงไนโรบี ทุกปี และหลักสูตร Rice Production Technologies for Food Security and Sustainability of African Countries ระหว่างปี ๒๕๖๕-๒๕๖๖ ที่ยูกันดาส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมทั้ง ๒ ปี ออท.ยูกันดา/ปทท. ขอขอบคุณรัฐบาลไทยในการให้ทุนดังกล่าวแก่ยูกันดา และขอให้กรมฯ พิจารณาแจ้งการเวียนทุนดังกล่าวผ่าน สอท. ยูกันดา/มาเลเซีย ซึ่งรับผิดชอบความร่วมมือกับไทยอีกทางหนึ่งด้วย โดยอาจแจ้งผ่าน สอท. ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ซึ่ง ออท.ยูกันดา/ปทท. มีความสัมพันธ์กับ ออท. ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นอย่างดี

ทั้งสองฝ่ายเห็นว่า เนื่องจากไทยและยูกันดาได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐยูกันดาว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ (Memorandum of Understanding between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the Republic of Uganda on Technical Cooperation) เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๖ และยังไม่มีกิจกรรมทวิภาคีร่วมกัน จึงเห็นพร้องร่วมกันว่าเป็นโอกาสดีที่จะริเริ่มออกแบบกิจกรรมความร่วมมือทางวิชาการด้านเกษตรกรรมในรูปแบบหลักสูตรฝึกอบรมระยะสั้น หรือการศึกษาดูงานในระดับทวิภาคีร่วมกัน เพื่อเป็นพื้นฐานในการขยายความร่วมมือด้านอื่น ๆ ในอนาคต โดย ออท. จะนำส่งร่างข้อเสนอโครงการให้กรมฯ พิจารณาต่อไป

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ