การหารือทวิภาคีกับ Mr. Karim Amer, Director of Partnerships Department of External Relations and Communications จากองค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA)

การหารือทวิภาคีกับ Mr. Karim Amer, Director of Partnerships Department of External Relations and Communications จากองค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (UNRWA)

วันที่นำเข้าข้อมูล 15 ธ.ค. 2565

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 15 ธ.ค. 2565

| 941 view

เมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๕ นางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้พบหารือทวิภาคีกับ Mr. Karim Amer, Director of Partnerships Department of External Relations and Communications จากองค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (The United Nations Relief and Works Agency for Palestine Refugees in the Near East - UNRWA) ระหว่างการเข้าร่วมประชุม The High-Level Meeting (HLM) of the Global Partnership for Effective Development Co-operation (GPEDC) ครั้งที่ ๓ (2022 Effective Development Co-operation Summit) ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส โดยมีนางอรุณี ไฮม์ม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย

ผู้แทน UNRWA กล่าวขอบคุณไทยที่สนับสนุนด้านการเงินและที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการดำเนินงานของ UNRWA เป็นอย่างดีตลอดมา และชื่นชมไทยที่ส่งเสริมการดำเนินงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาอย่างแข็งขัน พร้อมกับแจ้งเกี่ยวกับการดำเนินงานของ UNRWA ที่มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในเวสต์แบงก์ กาซา และประเทศใกล้เคียงอื่น ๆ อาทิ ซีเรีย เลบานอน และจอร์แดน ความช่วยเหลือแก่ผู้ลี้ภัยดังกล่าว ประกอบด้วย ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม อาทิ การสนับสนุนอาหารและที่พัก การสาธารณสุข การให้ทุนการศึกษา การฝึกอบรมอาชีพ อาทิ พยาบาล ช่างเครื่องยนต์ และไมโครไฟแนนซ์ (Microfinance)

ในโอกาสนี้ อธิบดีได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานด้านการพัฒนาของไทยในรูปแบบต่างๆ อาทิ โครงการเพื่อการพัฒนา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การฝึกอบรม ความร่วมมือไตรภาคีกับ JICA ในการพัฒนาศักยภาพในการบริหารการท่องเที่ยวของปาเลสไตน์ รวมถึงการมุ่งเน้นการดำเนินงานความร่วมมือ ใน ๔ ด้าน เพื่อมุ่งเน้นการเสริมสร้างความมั่นคง โดยเฉพาะยุคหลังโรค COVID-19 ได้แก่ (๑) ความมั่นคงด้านอาหาร (Food Security) (๒) ความมั่นคงด้านสุขภาพ (Health Security) (๓) ความมั่นคงด้านอาชีพ (Job Security) และ (๔) ความมั่นคงด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม (Energy and Environmental  Security)

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนข้อมูล และหารือความเป็นไปได้ในการริเริ่มความร่วมมือด้านการพัฒนาระหว่างไทยกับ UNRWA ในหลากหลายสาขาที่ทั้งสองฝ่ายมีความเชี่ยวชาญ โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การเสริมสร้างขีดความสามารถ และการจัดฝึกอบรม (Training) โดยทั้งสองฝ่ายจะมีการหารือในรายละเอียดร่วมกันต่อไป

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ