ความร่วมมือรูปแบบไตรภาคี

ความร่วมมือรูปแบบไตรภาคี

วันที่นำเข้าข้อมูล 16 เม.ย. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 พ.ย. 2565

| 443 view

ความร่วมมือไตรภาคี

 

  • ความเป็นมา กรมความร่วมมือฯ และ KOICA ได้ลงนาม MOU between KOICA and TICA to Strengthen Partnership for International Development Cooperation ระหว่าง ประธาน KOICA (Mr. Kim Young Mok) และอธิบดีกรมความร่วมมือฯ (น.ส.สุชาดา ไทยบรรเทา) เมื่อวันที่ ๒๕ มิ.ย.๒๕๕๗ โดยมีเป้าหมายในการสนับสนุนความร่วมมือเพื่อการพัฒนาบนหลักการ Partnership โดยรวมทั้งกิจกรรมความร่วมมือในรูปทวิภาคีและไตรภาคีที่รัฐบาลไทยและสาธารณรัฐเกาหลีจะร่วมมือกันดำเนินงานได้อย่าง  เป็นรูปธรรม ประกอบด้วย

     (๑) การส่ง ผชช./อาสาสมัคร

                   (๒) การจัดฝึกอบรม joint training

                   (๓) ทุนศึกษาอบรม

                   (๔) โครงการ/แผนงาน ครม.เพื่อการพัฒนา

                   (๕) การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร สื่อสิ่งพิมพ์ ฯลฯ

                   (๖) การวิจัยในประเด็นการพัฒนา

                   (๗) การจัดประชุม/สัมมนาฯ และ

                   (๘) กิจกรรมอื่นที่ตกลงกัน

  • กิจกรรม/การดำเนินงาน

๑. การจัดฝึกอบรม Joint Training Program

     ภายหลังการลงนามใน MOU ดังกล่าวข้างต้น ทั้งสองฝ่ายได้จัดทำ Action Plan on Joint Training Program เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินงานแล้ว ๒ ฉบับ และจนถึงปัจจุบัน (ปี ๒๕๖๒) ได้ร่วมกันจัดฝึกอบรมใน ปทท. ไปแล้ว รวม ๖ หลักสูตร มีผู้เข้าร่วมจากอาเซียน/ติมอร์ฯ รวมทั้งสิ้น ๖๙ ราย ดังนี้

๑.๑ Action Plan ระหว่างปี ค.ศ. ๒๐๑๔ – ๒๐๑๖ (๓ ปี) ลงนามโดย Mr. Yung-Soo Doo, Vice President, KOICA เมื่อวันที่ ๑๗ ส.ค. ๒๕๕๗ กับรองอธิบดีกรมความร่วมมือฯ (น.ส. อังสนา สีหพิทักษ์)  เมื่อวันที่ ๑๖ ก.ย. ๒๕๕๗ สำหรับการจัดฝึกอบรม KOICA-TICA Joint Training ใน ปทท. โดย KOICA ได้ส่ง ผชช. มาร่วมบรรยายให้แก่ประเทศสมาชิกอาเซียน (ยกเว้นบรูไนและสิงคโปร์) สาขา Public Health และสาขา Rural Development ซึ่งที่ผ่านมา ได้ร่วมกันจัดฝึกอบรมไปแล้ว ๓ หลักสูตร มีผู้เข้าร่วมรวม ๒๙ ราย ดังนี้    

                   ๑.๑.๑ ด้าน Rural Development

          (๑) ปี ๒๕๕๘ หลักสูตร Sustainable Rural Development Based on Sufficiency and Creative Economy ระหว่างวันที่ ๒ – ๑๓ มี.ค. ๒๕๕๘ ณ ม.ขอนแก่น มีผู้เข้าร่วมรวม ๑๑ ราย กัมพูชา (๓) สปป.ลาว (๑) มาเลเซีย (๑) เมียนมา (๒) เวียดนาม (๒) และ ปทท. (๒)

(๒) ปี ๒๕๕๙ หลักสูตร Sustainable Rural Development and Sufficiency Economy ระหว่างวันที่ ๕ – ๒๕ มิ.ย. ๒๕๕๙ โดย ม.เกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตกำแพงแสน) มีผู้เข้าร่วม ๙ ราย กัมพูชา (๓) สปป.ลาว (๒) มาเลเซีย (๑) และเมียนมา (๓)

                   ๑.๑.๒ ด้าน Public Health

ปี ๒๕๕๙ หลักสูตร Integrated Healthcare Management based on Primary Healthcare and Health System Strengthening Approach ระหว่างวันที่ ๑๙ มิ.ย. – ๒ ก.ค. ๒๕๕๙  โดยสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเชียน (ASEAN Institute for Health Development: AIHD) ม.มหิดล มีผู้เข้าร่วม รวม ๙ ราย มาเลเซีย (๓) ฟิลิปปินส์ (๑) เมียนมา (๒) และกัมพูชา (๓)  

     ๑.๒ Action Plan ระหว่างปี ค.ศ. ๒๐๑๗ – ๒๐๑๙ (๓ ปี) ลงนามโดย Mr. Sul Kyung Hoon, Vice President, KOICA เมื่อวันที่ ๒๐ มี.ค. ๒๕๖๐ กับรองอธิบดีกรมความร่วมมือฯ (นายไพศาล หรูพาณิชย์กิจ) ในวันที่ ๘ มิ.ย. ๒๕๖๐ สำหรับการจัดฝึกอบรม KOICA-TICA Joint Training ทั้งใน ปทท. และ กลต. ระยะเวลา ๓ สัปดาห์ และให้ทุนหลักสูตรละ ๑๘ ทุน แก่ ๙ ประเทศ (คือ ๘ ประเทศสมาชิกอาเซียน ยกเว้นบรูไนและสิงคโปร์ และติมอร์-เลสเต) โดยแต่ละฝ่ายจะส่ง ผชช. ไปร่วมบรรยายในหลักสูตรที่อีกฝ่ายเป็นประเทศ ผู้จัด ปีละ ๒ หลักสูตร (กลต. จะจัดหลักสูตรด้าน Water Resources และ ปทท. จะจัดหลักสูตรเกี่ยวกับ SEP) ซึ่งระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๒ ได้ร่วมกับ กลต. จัดฝึกอบรมเสร็จสิ้นไปแล้ว รวม ๖ หลักสูตร ดังนี้   

                   ๑.๒.๑ การจัดอบรมที่ ปทท. หลักสูตร Sustainable Agriculture and Environmental Management based on Sufficiency Economy Philosophy รวม ๓ ครั้ง คือ ปีที่ ๑ (ระหว่างวันที่ ๓๑ ต.ค.–๒๒ พ.ย. ๖๐) ปีที่ ๒ (ระหว่างวันที่ ๓๑ ต.ค.–๒๒ พ.ย. ๖๑) และปีที่ ๓ (ระหว่างวันที่ ๒๙ ส.ค.–๒๐ ก.ย. ๖๒) ณ จ.เพชรบุรี โดย ม.ศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี มีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น ๔๐ ราย จาก ๘ ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา (๑)สปป.ลาว (๑๐) เมียนมา (๓) เวียดนาม (๗) อินโดนีเซีย (๓) มาเลเซีย (๑) ติมอร์-เลสเต (๑๔) และ ปทท. (๑)

๑.๒.๒ การจัดอบรมที่ กลต. หลักสูตร Water Resources Development and Management โดย KOICA ณ เมือง Daejeon  ซึ่งกรมความร่วมมือฯ ได้จัดส่งผู้เชี่ยวชาญไทย (คณบดี/อาจารย์ จากคณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ม.มหิดล ไปเป็นวิทยากรร่วมบรรยาย รวม ๓ ครั้ง ในปี ๒๕๖๐ (ระหว่างวันที่ ๑๒–๑๓ พ.ย. ๖๐) ปี ๒๕๖๑ (ระหว่างวันที่ ๒๖–๒๗ ส.ค. ๖๑) และปี ๒๕๖๒ (ระหว่างวันที่ ๑๙–๒๒ ต.ค. ๖๒)

    ๑.๓ การจัดทำ Action Plan ฉบับที่ ๓ ระหว่างปี ค.ศ. ๒๐๒๐ – ๒๐๒๒ (๓ ปี)

                   เมื่อวันที่ ๒๗ มี.ค. ๖๒ นาย Song Jinho, Vice President ของ KOICA ได้เข้าพบกับ รอธ. ศศิธรฯ และหารือประเด็นต่าง ๆ รวมทั้งการจัดทำ Action Plan ฉบับที่ ๓ โดย รอธ. ศศิธรฯ ได้เสนอแนะสาขาที่ควรจัดอบรมร่วมกันให้แก่อาเซียนที่สอดคล้องกับประเด็นสำคัญภายใต้กรอบ ASEAN และ SDGs ตามเอกสาร Complementarities between the ASEAN Community Vision 2025 and the United Nations 2030 Agenda for Sustainable Development (กต. จัดทำร่วมกับ UNESCAP และ สลธ.อาเซียน) ซึ่งระบุ priority areas ไว้ ๕ สาขา ได้แก่ ๑) Poverty eradication ๒) Infrastructure and connectivity ๓) Sustainable management of natural resources ๔) Sustainable consumption and production และ ๕) Resilience ทั้งนี้ ฝ่ายไทยยังคงเน้นเรื่อง Poverty eradication / การเผยแพร่หลักปรัชญาของ ศก.พอเพียง เพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมาย SDGs (SEP for SDGs Partnership)

          ๒. โครงการ Joint Development Project กรมความร่วมมือฯ ได้จัดส่ง Concept เพื่อริเริ่ม Joint Development Project on Rural Development ในโมซัมบิก ให้แก่ KOICA/HQ พิจารณา เพื่อจะมีการจัดส่ง Joint Mission เพื่อไปหารือกับฝ่ายโมซัมบิกถึงความเป็นไปได้ในการจัดตั้งโครงการต่อไป ซึ่งต่อมา KOICA แจ้งไม่สนับสนุน เนื่องจากเห็นว่า ภูมิภาคแอฟริกาไม่ใช่ ปท. เป้าหมายที่ประสงค์จะมี    ความร่วมมือกับไทย

การจัดส่งอาสาสมัคร Joint Volunteers จะดำเนินการโครงการ Joint Volunteers ระหว่างกรมความร่วมมือฯ กับ KOICA เพื่อจัดส่งอาสาสมัครไทยและ กลต. ไปปฏิบัติงานในประเทศที่สาม รวมทั้งในประเทศที่มีโครงการของไทยหรือ กลต. ดำเนินการอยู่ เพื่อช่วยปฏิบัติงานในพื้นที่โครงการ KOICA ได้ขอให้ จนท.กรมฯ ที่ปฏิบัติงานที่ สอท. ในประเทศเพื่อนบ้านไปหารือกับ KOICA ประจำประเทศนั้น เพื่อพิจารณา/เสนอแนะสาขาที่เหมาะสมในการจัดส่งอาสาสมัครร่วมกันก่อน (กรมความร่วมมือฯ ได้แจ้งขอความอนุเคราะห์ สอท. ในประเทศเพื่อนบ้านต่าง ๆ แล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมการแจ้งผล)    

 

-----------------------------------------------------

 

ภารกิจความร่วมมือหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา

(ณ วันที่ ๖ ธ.ค. ๒๕๖๒)