เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2568 นายจุลวัจน์ นรินทรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ เป็นประธานการประชุม TICA-JICA Annual Meeting for Technical Cooperation JFY 2026 ร่วมกับนาย SAKUDO Shunsuke ตำแหน่ง Chief Representative องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ประจำประเทศไทย โดยมี นางอรุณี ไฮม์ม รองอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ นางสาวชิดชนก มาลยะวงศ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและประสานความร่วมมือระหว่างประเทศ นางชัชสรัญย์ เลิศเกียรติวงศ์ ผู้อำนวยการกองความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ นายกฤษฎา ผกากาญจน์ ผู้อำนวยการกองความร่วมมือด้านทุน ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย ณ JICA ประเทศไทย

ที่ประชุมเน้นย้ำความสำคัญของการประชุมในครั้งนี้ ซึ่งเป็นเวทีที่กรมความร่วมมือฯ และ JICA จะหารือถึงทิศทางความร่วมมือทางวิชาการไทย – ญี่ปุ่น ในปีงบประมาณญี่ปุ่น 2569 (ค.ศ. 2026) และทบทวนนโยบายด้านการพัฒนาระหว่างกัน นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบผลการพิจารณาจากรัฐบาลญี่ปุ่นต่อข้อเสนอที่ฝ่ายไทยจัดส่งไปสำหรับความร่วมมือทางวิชาการไทย-ญี่ปุ่นประจำปีงบประมาณญี่ปุ่น 2568 (ค.ศ. 2025) และหารือการดำเนินงานความร่วมมือที่มีอยู่ในปัจจุบันทั้งในกรอบทวิภาคีและไตรภาคี อาทิ โครงการประยุกต์ใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของไทย โดยบูรณาการร่วมกับแนวทางการเสริมสร้างศักยภาพและส่งเสริมการปลูกพืชสวนและการตลาดให้เกษตรกรรายย่อย (Smallholder Horticulture Empowerment and Promotion - SHEP) ของญี่ปุ่น ให้แก่ สปป.ลาว การจัดหลักสูตรฝึกอบรมให้แก่ประเทศที่สาม (Third Country Training Programme : TCTP) ในประเทศไทยให้แก่กลุ่มประเทศอาเซียน และการจัดส่งอาสาสมัครเพื่อนไทยไปปฏิบัติงานที่ญี่ปุ่น รวมทั้งแนวทางในการจัดทำข้อเสนอฯ สำหรับปีงบประมาณญี่ปุ่น 2569 (ค.ศ. 2026) โดยทั้งสองฝ่ายพร้อมทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกันในสาขาที่เป็นประเด็นเร่งด่วนในระดับโลกและภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาธารณสุขชายแดน ผ่านความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการสนับสนุนอุปกรณ์ที่จำเป็น โดยอาศัยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของไทยและญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมบทบาทหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาที่แข็งขันต่อกันต่อไป    

โอกาสนี้ อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศชื่นชมบทบาทที่แข็งขันของ JICA สำหรับความร่วมมือทางวิชาการที่มีมายาวนานกว่า 70 ปี ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างไทยและญี่ปุ่น โดยได้ยืนยันความพร้อมที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับนาย SAKUDO และ JICA ในการส่งเสริมความร่วมมือให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประชาชนทั้งสองประเทศ และการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงต่อไป