ตามที่มีสถานการณ์เกิดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระบาดมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อทั้งประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึง สปป. ลาว ที่มีการระบาดเพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม ๒๕๖๔ ประเทศไทยได้ตระหนักถึงความจำเป็นในการเสริมสร้างขีดความสามารถของ สปป. ลาว ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศไทย ในการรับมือกับสถานการณ์ระบาดดังกล่าว เพื่อชะลอการระบาดออกไปในวงกว้าง รัฐบาลไทย
โดยกระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้การสนับสนุนรัฐบาล สปป.ลาวและร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ ดังนี้ ๑) จัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็นเร่งด่วน รวมถึงพัฒนาศักยภาพบุคลากรทางการแพทย์ ภายใต้แผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย-ลาว เพื่อรับมือกับโรค COVID-19 ระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว อาทิ ชุด PPE ที่ใช้ในห้องปฏิบัติการและการตรวจรักษาโรค อุปกรณ์ห้องปฏิบัติการเครื่อง RT-PCR และห้องตรวจเชื้อความดันบวก สำหรับ รพ. แขวงบ่อแก้ว และ รพ. แขวงไซยะบูลี ๒) การให้คำปรึกษาทางการแพทย์(Medical Consultation) เพื่อเปิดช่องทางให้แพทย์ลาวและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญไทยให้การปรึกษาในการรักษาและอภิบาลผู้ป่วยโรค COVID-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดอัตราการเสียชีวิต โดยที่ผ่านมาได้ดำเนินการดังกล่าวระหว่างคู่จังหวัดอุบลราชธานี - จำปาสัก และจังหวัดมุกดาหาร - แขวงสะหวันนะเขต

นอกจากนี้ กระทรวงการต่างประเทศยังมีความร่วมมือกับภาคเอกชนไทยในลักษณะ Public Private Partnership (PPP) ที่มีความประสงค์ที่จะให้การสนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้แก่รัฐบาล สปป.ลาว โดยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ พ.ค. ๒๕๖๔ นางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้รับมอบหน้ากากอนามัยจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ ชิ้น และแอลกอฮอล์เจล ๑,๐๐๐ แกลลอน จากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด มหาชน โดยมี นายชัยโรจน์ ทิวัตถ์มั่นเจริญ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด มหาชน และ ดร. เนติธร ประดิษฐ์สาร ผู้ช่วยบริหารประธานคณะผู้บริหารและรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักความร่วมมือระหว่างประเทศ ด้านความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัทเครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด เป็นผู้มอบ ที่กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อดำเนินการส่งต่อไปยังสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ นำไปส่งมอบให้รัฐบาล สปป. ลาว ต่อไป