วันที่นำเข้าข้อมูล 13 ธ.ค. 2567
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 13 ธ.ค. 2567
เมื่อวันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ นางพิมพ์วดี โสวรัตนพงศ์ รองอธิบดีและรักษาราชการแทนอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้เป็นสักขีพยานในพิธีส่งมอบอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ ภายใต้แผนงานความช่วยเหลือแบบให้เปล่าของรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อสนับสนุนการรับมือกับสถานการณ์โรค COVID-19 โดยมีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายโอตากะ มาซาโตะ (H.E. Mr. OTAKA Masato) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยและนายซูซูกิ คาซึยะ (Mr. SUZUKI Kazuya) ตำแหน่ง Chief Representative องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) สำนักงานประเทศไทย เข้าร่วมพิธี ซึ่งจัดขึ้นที่ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร ชั้น ๒ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข
แผนงานดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่น โดยรัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติการให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าดังกล่าวแก่ไทยในวงเงินงบประมาณ ๕๐๐ ล้านเยน (หรือประมาณ ๑๑๓ ล้านบาท) ผ่านการมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีของญี่ปุ่น มุ่งเน้น ๓ ด้าน ได้แก่ การยกระดับมาตรการกักตัวและตรวจโรค COVID-19 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและด่านชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงสนับสนุนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ การพัฒนาระบบการเก็บรักษาวัคซีน และพัฒนาระบบการตรวจและรักษาผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่ห้องปฏิบัติการและสถานพยาบาล เน้นสถานพยาบาลของไทยในพื้นที่ชายแดนของไทย โดยเฉพาะในจังหวัดสระแก้ว ระนอง สงขลา และตาก ทั้งนี้ อุปกรณ์การแพทย์ที่รัฐบาลญี่ปุ่นสนับสนุนให้แก่ไทยกว่า ๖๐ รายการ ครอบคลุมทั้งเครื่องมือตรวจหาปริมาณแอนติเจนของเชื้อก่อโรค COVID-19 เครื่องวิเคราะห์หาลำดับสารพันธุกรรม ไปจนถึงอุปกรณ์เพื่อช่วยในการกักกันโรค อาทิ ห้องและเต็นท์ควบคุมเชื้อความดันลบ ตู้ชีวนิวภัย ตลอดจนอุปกรณ์รักษาผู้ติดเชื้อ COVID-19 เช่น เครื่องช่วยหายใจชนิดควบคุม เครื่องผลิตออกซิเจน และเครื่องควบคุมการให้สารละลายทางหลอดเลือด เป็นต้น
การสนับสนุนดังกล่าวสะท้อนถึงความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาผ่านการดำเนินงานระหว่างกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และ JICA ซึ่งมีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดครบรอบ ๗๐ ปีในปี ๒๕๖๗ นี้ ซึ่งภายใต้แผนงานดังกล่าว ทุกฝ่าย รวมถึงกระทรวงสาธารณสุขในฐานะหน่วยงานปฏิบัติฝ่ายไทย ได้ร่วมกันสนับสนุนบทบาทที่แข็งขันด้านสาธารณสุขของไทยในพื้นที่ชายแดน โดยจะช่วยส่งเสริมภารกิจของโรงพยาบาลในพื้นที่ฝั่งไทยให้ดำเนินความร่วมมือทางการแพทย์ที่เชื่อมโยงใกล้ชิดกับโรงพยาบาลในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งกรมความร่วมมือระหว่างประเทศร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินโครงความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านมาแล้วอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ดังนั้น ความร่วมมือด้านการพัฒนาของไทยและญี่ปุ่นครั้งนี้จึงช่วยกระชับความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของทั้งสองประเทศควบคู่กับการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีของประชาชนตามแนวชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย
รูปภาพประกอบ