เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2567 นางพิมพ์วดี โสวรัตนพงศ์ รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับโครงการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรอย่างยั่งยืนไทย - เคนยา ร่วมกับ Ms. Rosemary Nyamu, Director of Kenya School of Agriculture ณ Kenya School of Agriculture เมือง Nyeri Kenya เพื่อสรุปผลการดำเนินกิจกรรมภายใต้โครงการที่ผ่านมา และรับฟังปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะจากฝ่ายไทยและเคนยา โดยมี ร้อยโท สรวุฒิ ปรีดีดิลก อัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ปฏิบัติงานทางกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ, รศ. ดร. ดรุณี โชติฐยางกูร คณบดีคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในฐานะผู้เชี่ยวชาญดำเนินโครงการ, นางชัชสรัลย์ เลิศเกียรติวงศ์ ผอ. กองความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมด้วย

ที่ประชุมรับทราบผลการดำเนินโครงการที่ผ่านมาของโครงการ ประกอบด้วย การจัดตั้ง Thailand-Kenya Agro-technologies Learning Center แปลงสาธิตการปลูกพืชแบบออร์แกนิก การจัดฝึกอบรม การจัดส่งอาสาสมัครเพื่อนไทยไปปฏิบัติงาน ณ Kenya School of Agriculture ซึ่งทุกกิจกรรมดำเนินงานผ่านไปด้วยดี พร้อมรับฟังบทวิเคราะห์ผลสำเร็จของโครงการจาก รศ. ดร. ดรุณี โชติฐยางกูร จากการวิเคราะห์พบว่าความท้าทายที่สำคัญคือ (๑) การวางแผนต่อยอดการดำเนินโครงการ (๒) การเชื่อมโยงโครงการเข้ากับชุมชนรอบข้าง (๓) การปรับให้โครงการเป็นส่วนหนึ่งในแผนการเรียนการสอนของฝ่ายเคนยา และ (๔) บุคลากรของ KSA จำเป็นต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ บุคลากรของ KSA นำเสนอเกี่ยวกับแผนการทำงานและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา และแจ้งต่อที่ประชุมเพิ่มเติมว่า ได้มีการต่อยอดโครงการโดยการฝึกสอนเกษตรกรท้องถิ่น พัฒนาแปลงสาธิตและศูนย์เรียนรู้บ้างแล้ว

ทั้งนี้กรมความร่วมมือฯ ยินดีให้การสนับสนุนทุนการศึกษาระดับปริญญาโทด้านเกษตรให้แก่บุคลากรของ KSA และพร้อมจัดส่งอาสาสมัครเพื่อนไทยเดินทางมาทำงาน ณ KSA อีก 1 รุ่นเพื่อให้การดำเนินโครงการสามารถบรรลุผลสำเร็จได้อย่างสมบูรณ์ และสร้างบุคลากรที่จะเป็นกำลังสำคัญในการดูแลโครงการต่อไป

ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันคณะได้เข้าเยี่ยมชม Thailand-Kenya Agro-technologies Learning Center และแปลงสาธิต Thailad Organic Farm เพื่อพิจารณาผลการดำเนินงานร่วมกันระหว่างบุคลากรและนักเรียนของ KSA ร่วมกับอาสาสมัครเพื่อนไทย และพบว่ามีการพัฒนาศูนย์เรียนรู้และแปลงสาธิตได้เป็นอย่างดี และยังคงมีผู้ดูแลพื้นที่แม้อาสาสมัครจะหมดระยะเวลาปฏิบัติงานแล้ว