เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๕ นางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ พร้อมด้วยนายเจษฎา กตวาทิน เอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ได้เข้าเยี่ยมคารวะ นายโพไซ ไขคำพิทูน รองรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแห่ง สปป.ลาว โดยมี นางสาว จิรัสยา พีรานนท์ อัครราชทูต และเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมด้วย ณ กระทรวงการต่างประเทศ

นายโพไซฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยและกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ที่ให้ความร่วมมือทางวิชาการมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นสิ่งที่รัฐบาลลาวได้รับทราบมาโดยตลอด รวมทั้งขอให้การประชุมความร่วมมือทางวิชาการไทย-ลาวที่จะจัดในวันที่ ๒๔- ๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๕ นี้ ประสบผลสำเร็จ

ในการเข้าพบครั้งนี้ นางอุรีรัชต์ฯ ได้แจ้งวัตถุประสงค์ของการเดินทางมา สปป. ลาว ครั้งนี้ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือทางวิชาการไทย-ลาว ครั้งที่ ๒๔ ที่หลวงพระบาง ซึ่งจะเป็นการหารือและผลักดันโครงการที่ได้รับผลกระทบอันเนื่องมาจากสถานการณ์โรคติดเชื้อโคโรน่า 2019 รวมทั้งร่วมกันจัดทำแผนงานความร่วมมือทางวิชาการไทย-ลาว ระยะ ๓ ปี ฉบับใหม่ (พ.ศ. ๒๕๖๖ – ๒๕๖๘) กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของลาว

นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินกิจกรรมดังนี้
๑. ส่งมอบเตียงนวัตกรรมพลิกตะแคง และอุปกรณ์การแพทย์ภายใต้โครงการพัฒนาโรงพยาบาลเมืองโพนโฮง แขวงเวียงจันทน์ สปป. ลาว ซึ่งเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ได้เป็นผู้ส่งมอบให้เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๕

๒. เยี่ยมชมศูนย์พัฒนาทักษะด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวที่เมืองวังเวียง เพื่อหารือกับ Luxembourg Agency for Development Cooperation หรือ LuxDev ถึงแนวทางการดำเนินงานความร่วมมือแบบไตรภาคีกับ LuxDev ในสาขาอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกรอบความร่วมมือที่รัฐบาลไทยจะได้นำองค์ความรู้หรือแนวปฏิบัติที่ดีถ่ายทอดให้ สปป. ลาว ได้

๓. การจัดพิธีมอบทุนการศึกษาให้แก่บุคลากรของ สปป.ลาว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ได้จัดพิธีมอบทุน โดยมีท่านนางขันทะลี สิริพงพัน รองรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการและกีฬา สปป. ลาว ร่วมกล่าวแสดงความยินดีกับผู้รับทุน จำนวนทั้งสิ้น ๔๒ ราย ประกอบด้วย ผู้รับทุนศึกษาระดับปริญญาโท (เข้าศึกษาใหม่) ภายใต้แผนพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ทวิภาคีไทย – ลาว จำนวน ๒๗ ราย และทุนฝึกอบรมหลักสูตร Knowledge of Diplomacy for participants from Lao PDR รวม ๑๕ ราย

๔. ติดตามและเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้เพื่อการพัฒนาเกษตรแบบยั่งยืนตามแนวทางหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ที่วิทยาลัยเทคนิคกสิกรรมดงคำช้าง ซึ่งถือได้ว่าเป็นต้นแบบของศูนย์เรียนรู้ของลาว และปัจจุบันได้ขยายผลเป็น ๖ ศูนย์เรียนรู้ โดยมี ๓ แห่งได้ส่งมอบให้รัฐบาล สปป. ลาวแล้ว คือ ที่นครหลวงเวียงจันทน์ คำม่วน และเซกอง ส่วนอีก ๓ แห่ง อยู่ในระหว่างการดำเนินงาน คือ บ่อแก้ว ไซยะบุลี และอัดตะปือ แม้ว่าจะส่งมอบแล้ว แต่ฝ่ายไทยยังเห็นถึงความจำเป็นที่จะต่อยอดกิจกรรมในวิทยาลัยต่างๆ เช่น ที่แขวงคำม่วน ซึ่งสถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ มีแผนที่จะดำเนินการโครงการประมงน้ำกร่อย

นอกจากนี้ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศมีแผนงานที่จะเชิญผู้บริหารศูนย์เรียนรู้ทั้ง ๓ แห่ง เข้ารับการอบรมเพิ่มเติมเพื่อเป็นการเพิ่มพูนนวัตกรรม/ความรู้ใหม่ๆ ให้แก่ผู้บริหารศูนย์ฯ อีกด้วย ทั้งนี้ ท่านโพไซฯ ได้เคยไปเยี่ยมชมผลสำเร็จของโครงการที่แขวงคำม่วนมาแล้ว

สำหรับแผนงานที่จะทำร่วมกันในอนาคต ท่านโพไซฯ ขอให้ปรึกษาหารือกันในการประชุม เพราะประเทศไทยและลาวเป็นบ้านพี่เมืองน้อง บ้านใกล้เรือนเคียง อย่างที่นายกรัฐมนตรีลาวได้เคยกล่าวว่า กินข้าวร่วมนา กินปลาร่วมน้ำ และขอให้ความร่วมมือทางวิชาการของทั้งสองประเทศสามารถขยายไปสู่ความร่วมมือในสาขาต่าง ๆ ต่อไป