เมื่อวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๖ นางอุรีรัชต์ เจริญโต อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ได้เป็นสักขีพยานในพิธีส่งมอบอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์งวดที่ ๑ ภายใต้แผนงานความช่วยเหลือแบบให้เปล่าของรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อสนับสนุนการรับมือกับ สถานการณ์โรค COVID-19 โดยมีนายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข นาย OBA Juichi อัครราชทูตและรองหัวหน้าสำนักงาน สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย นาย SUZUKI Kazuya,Chief Representative องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (Japan International Cooperation Agency – JICA) สำนักงานประเทศไทย และนายแพทย์บัลลังก์ อุปพงษ์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมพิธี ซึ่งจัดขึ้นที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข

แผนงานดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่างไทยและญี่ปุ่น โดยรัฐบาลญี่ปุ่นได้อนุมัติการให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่าดังกล่าวแก่ไทยสำหรับดำเนินการระหว่างปี ๒๕๖๕ – ๒๕๖๙ ในวงเงินงบประมาณ ๕๐๐ ล้านเยน (หรือประมาณ 120 ล้านบาท)* ผ่านการมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ถ่ายทอดเทคโนโลยีญี่ปุ่น มุ่งเน้น ๓ ด้าน ได้แก่ การยกระดับมาตรการกักตัวและตรวจโรค COVID-19 ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและด่านชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงสนับสนุนกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ การพัฒนาระบบการเก็บรักษาวัคซีน และพัฒนาระบบการตรวจและรักษาผู้ป่วยโรค COVID-19 ที่ห้องปฏิบัติการและสถานพยาบาล เน้นสถานพยาบาลของไทยในพื้นที่ชายแดนของไทย ทั้งนี้ สำหรับอุปกรณ์การแพทย์งวดที่ ๑ ที่มีการส่งมอบแล้ว ได้แก่ เครื่องตรวจหาปริมาณแอนติเจนของเชื้อก่อโรคโควิด 19 พร้อมชุดน้ำยาตรวจโควิด ซึ่งติดตั้งที่กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และจะมีการดำเนินการส่งมอบอุปกรณ์การแพทย์ให้กับหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุขในงวดอื่น ๆ ต่อไป

การสนับสนุนดังกล่าวสะท้อนถึงความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในด้านความร่วมมือเพื่อการพัฒนาผ่านการดำเนินงานของกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย และ JICA แผนงานนี้ได้ช่วยสนับสนุนบทบาทที่แข็งขันด้านสาธารณสุขของไทยในพื้นที่ชายแดน โดยจะช่วยส่งเสริมภารกิจของโรงพยาบาลในพื้นที่ฝั่งไทยให้ดำเนินความร่วมมือทางการแพทย์ที่เชื่อมโยงใกล้ชิดกับโรงพยาบาลในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านซึ่งกรมความร่วมมือระหว่างประเทศร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินโครงความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านมาแล้วอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ความร่วมมือด้านการพัฒนาของไทยและญี่ปุ่นครั้งนี้จึงช่วยกระชับความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของทั้งสองประเทศควบคู่กับการเสริมสร้างสุขภาวะที่ดีของประชาชนตามแนวชายแดนของไทยกับประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย

* อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ ๑๙ กันยายน ๒๕๖๖