เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๗ ร้อยโท สรวุฒิ ปรีดีดิลก อัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ปฏิบัติหน้าที่ทางกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ เป็นผู้แทนกรมความร่วมมือระหว่างประเทศเดินทางเพื่อร่วมประชุมหารือกับ นายแพทย์พิชิต สุขสบาย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านนาสาร และตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของ Mr. KOBAYASHI Takafumi อาสาสมัครญี่ปุ่น (Japan Overseas Cooperation Volunteer: JOCV) ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ ที่โรงพยาบาลบ้านนาสาร โดยมี นายธงธวัช ลูกรักษ์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลบ้านนาสาร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย ณ โรงพยาบาลบ้านนาสาร อ. บ้านนาสาร จ. สุราษฎร์ธานี

ในโอกาสนี้ผู้แทนกรมความร่วมมือฯ ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลบาทบาทและภารกิจงานด้านอาสาสมัครต่างประเทศ และรับฟังประสบการณ์การรับอาสาสมัครต่างประเทศ รวมถึงข้อเสนอแนะจากโรงพยาบาลบ้านนาสาร เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการดำเนินงานด้านอาสาสมัครต่างประเทศของกรมความร่วมมือฯ ในการนี้ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านนาสารและผู้แทนจากเทศบาลตำบลบ้านนาสารให้ข้อมูลว่า ปัจจุบัน อ. บ้านนาสาร มีแนวโน้มของประชากรผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้นทุกปี คิดเป็นร้อยละ ๒๑ ของประชากรในพื้นที่ การปฏิบัติงานของอาสาสมัครญี่ปุ่นที่โรงพยาบาลจึงมีประโยชน์อย่างมากต่อการพัฒนาระบบการดูแลผู้สูงอายุของเทศบาลตำบลบ้านนาสาร ทั้งในด้านองค์ความรู้ในการดูแลผู้สูงอายุและการพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพให้ผู้สูงอายุในชุมชน ซึ่งช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับประชากรผู้สูงอายุซึ่งแป็นกลุ่มเปราะบาง โดย Mr. KOBAYASHI Takafumi ปฏิบัติหน้าที่ที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุของชุมชนหรือศูนย์ Day Care และได้พัฒนากิจกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการในผู้สูงอายุ อาทิ การเคลื่อนไหวร่างกาย การฝึกสมองและความจำ และการส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อนร่วมงาน และคนในชุมชน โดยโรงพยาบาลบ้านนาสารได้แสดงความประสงค์ในการรับอาสาสมัครต่างประเทศเพื่อมาปฏิบัติงานด้านการดูแลผู้สูงอายุอย่างต่อเนื่องในอนาคต

นอกจากนี้ ผู้แทนกรมความร่วมมือฯ ได้สอบถามถึงการปฏิบัติงาน การปรับตัว และความเป็นอยู่ของอาสาสมัครต่างประเทศในประเทศไทย โดย Mr. KOBAYASHI Takafumi มีความประทับใจต่อคนไทยและรู้สึกรักประเทศไทย และอยากมีส่วนช่วยให้ผู้สูงอายุมีชีวิตที่ปลอดภัยและสุขภาพดี รวมถึงอยากมีส่วนร่วมในการพัฒนาสวัสดิการของผู้สูงอายุในประเทศไทย และหวังว่าญี่ปุ่นและไทยจะสามารถพัฒนาสิ่งเหล่านี้ร่วมกันได้